วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ส่งงานเพิ่ม

กลุ่มไหนที่ยังไม่มีใน Link ของผม ให้โพสต์ ชื่อเว็บ Blog ในบทความนี้เท่านั้น

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

มาดูดาวกัน

NASA มีของเล่นใหม่ เปิดตัวโปรแกรม “Eyes on the Solar System” เป็นระบบ 3D ดูระบบสุริยะ การเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ

ความหมายจริยธรรมและความหมายจรรยาบรรณ

จริยธรรม มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต
• จริย หมายถึง ความประพฤติ การปฏิบัติ กิริยาที่ควรประพฤติ
• ธรรม หมายถึง คุณความดี บุญกุศล ข้อบังคับ กฎ หลัก คำสั่งสอนทางศาสนา

จริยธรรม หมายถึง การแสดงออกทางการประพฤติปฏิบัติของบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำในสิ่งที่ถูกต้องและอยู่ในกรอบของศีลธรรม

จรรยาบรรณ หมายถึง “ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างที่กำหนดขึ้น เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียง และฐานของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้”จรรยาบรรณเป็นจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ ผู้ประกอบอาชีพสาขาต่างๆ พึงตระหนักและปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางที่จะอำนวยประโยชน์สุขทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นในสังคมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม

จรรยาบรรณของนักคอมพิวเตอร์
1. จรรยาบรรณต่อตนเอง ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่และดำรงชีวิตเหมาะสมตามหลักธรรมาภิบาล
     1.1 ประกอบวิชาชีพนักคอมพิวเตอร์ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความยุติธรรม ใฝ่หาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาตน และงานที่รับผิดชอบ อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ตนเองและหน่วยงานที่สังกัด
     1.2 ผู้ประกอบวิชาชีพคอมพิวเตอร์จะมีความวิริยะอุตสาหะในการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุความสำเร็จของงานสูงสุด
2. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมงาน ตั้งมั่นอยู่ในความถูกต้อง มีเหตุผล และรู้รักสามัคคี
     2.1 ไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิเดิมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
     2.2 ให้ความยกย่องและนับถือผู้ร่วมงานและผู้ร่วมอาชีพทุกระดับที่มีความรู้ความสามารถและความประพฤติดี
     2.3 รักษาและแสวงหามิตรภาพระหว่างผู้ร่วมงานและผู้ร่วมอาชีพ
3. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ไม่ประพฤติหรือกระทำการใดๆอันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ในวิชาชีพแห่งตน
     3.1 ใช้ความรู้ความสามารถในทางสร้างสรรค์ ไม่ใช้ในทางทำลายหรือกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
     3.2 ไม่แอบอ้าง อวดอ้าง ดูหมิ่นต่อบุคคลอื่นๆหรือกลุ่มวิชาชีพอื่น
     3.3 ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมเกียรติคุณของวิชาชีพ ผู้ร่วมอาชีพและเพื่อพัฒนาวิชาชีพ
4. จรรยาบรรณต่อสังคม ปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติตน ในวิชาชีพนักคอมพิวเตอร์ที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม
     4.1 ไม่เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎ ระเบียบ และหลักคุณธรรม จริยธรรม
     4.2 ไม่ใช้อำนวยหน้าที่โดยไม่ชอบธรรมในการเอื้อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์
     4.3 ไม่ใช้ความรู้ความสามารถไปในทางล่อลวง หลอกลวง จนเป็นเหตุให้เกิดผลเสียต่อผู้อื่น
5. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ เคารพในสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคของผู้อื่น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม
     5.1 รับฟังความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างบุคคล เครือข่าย และองค์กรที่เกี่ยวข้อง
     5.2 เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานได้

ที่มา http://www.finearts-psdg.com/n/tabid/247/Default.aspx

คุณสมบัติของนักคอมพิวเตอร์ที่ดีควรมีคุณสมบัติที่เอื้อประโยชน์ต่องานอาชีพ คุณสมบัติของนักคอมพิวเตอร์ ควรมีลักษณะ ดังนี้
     1. เป็นนักวางแผนที่ดี
     2. เป็นนักออกแบบที่สร้างสรรค์
     3. เป็นนักจิตวิทยา
     4. เป็นผู้มีสติ
     5. เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ
     6. เป็นผู้ใช้ศาสตร์ใช้ศิลป์ได้อย่างกลมกลืน
     7. เป็นผู้มีวินัยในตนเอง
     8. มีความขยัน อดทน
     9. มีความกระตือรือร้น สนใจศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ
     10. มีจรรยาต่อวิชาชีพ
การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่องานอาชีพงานอาชีพคอมพิวเตอร์นับว่ามีความสำคัญต่อหน่วยงาน สถาบัน และองค์กรทางธุรกิจต่างๆ มากมาย ดังนั้นผู้ที่เป็นนักคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีบุคลิกที่เอื้ออำนวยให้เกิดภาพลักษณ์ในทางบวกต่อตนเองและงานอาชีพ ในที่จะขอกล่าวบุคลิกภาพที่พึงประสงค์ในงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเกิดความเชื่อถือศรัทธา และเป็นที่ยอมรับของผู้ที่มาติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าผู้ใช้บริการ หรือนายจ้างบุคลิกของนักคอมพิวเตอร์จึงมีส่วนช่วยในการทำงานประสบความสำเร็จ ฉะนั้นจึงควรมีการพัฒนาบุคลิกภาพด้านต่างๆ ต่อไปนี้
     1. รู้จักพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รอบรู้
     2. รู้จักฝึกตนเองให้มีความอดทน
     3. รู้จักฝึกตนเองให้เป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง
     4. รู้ปรับตัวในด้านความสัมพันธ์ดี
     5. รู้จักปรับตัวให้ทำงานกับผู้อื่นได้
     6. รู้จักตนเองให้เป็นคนตรงต่อเวลาในการนัดหมาย
     7. รู้จักฝึกตนเองให้มีความรับผิดชอบในการ
     8. รู้จักดูแลตนเองในด้านการแต่งกายให้เหมาะสมกับงานและตำแหน่งเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้แก่ผู้ที่พบเห็นได้อีกด้วย
     9. รู้จักคิดและพัฒนาอุปนิสัยให้คนซื่อสัตย์ และมีความจริงใจต่อผู้อื่น
     10. รู้จักการทำตนให้เป็นคนกล้ายอมรับความจริง

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Google Search

รูปแบบการสืบค้น และเทคนิคการสืบค้นของ Google
Google_Search

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีการสร้างแบบสอบถามออนไลน์

1. การสร้างแบบสอบถามออนไลน์ของ Google จะต้องมี Email ของ Google หรือ Gmail ก่อน แล้วเข้าไปที่เว็บ http://docs.google.com แล้ว Login เข้า Google docs หาก Login อยู่แล้วเมื่อเข้าไปตาม Link ก็จะเข้ามาที่หน้า google docs
 

ไปที่เมนู สร้างใหม่ > แบบฟอร์ม


กรอกชื่อแบบสอบถาม ใส่รายละเอียดหรือคำแนะนำ คำชี้แจงในการตอบแบบสอบถาม
จากนั้นในช่อง หัวข้อคำถามให้พิมพ์คำถาม
ข้อความช่วยเหลือหรืออธิบายเพิ่มเติม (ไม่ต้องใส่ก็ได้)


ประเภทคำถาม มีให้เลือก 6 แบบ
1. ข้อความ = การกรอกคำพูดข้อความลงในช่องว่าง
2. ข้อความย่อหน้า = การกรอกข้อความลงในช่อง แต่เป็นข้อความที่ยาวเป็นย่อหน้า
3. หลายตัวเลือก = คำถามแบบมีตัวเลือกหลายตัว (เลือกตอบได้เพียง 1 ข้อ)
4. ช่องทำเครื่องหมาย = มีตัวเลือกหลายตัว (สามารถเลือกได้หลายตัวเลือก)
5. เลือกจากรายการ = เลือกจากรายการที่มีให้เลือกได้คำตอบเดียวเหมือน Multiple choice แต่รูปแบบจะเป็นแบบ Dropdown List
6. สเกล = การตอบเป็นระดับคุณภาพ มีให้เลือกตั้นแต่ 0,1 – 10
7. เส้นตาราง = คล้ายแบบสเกล แต่สามารถสร้างรายการคำถามได้มากกว่า 1 รายการ


พิมพ์ตัวเลือกลงไป หากคำถามข้อนั้นบังคับให้ตอบ ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่ Make this a required question จากนั้นคลิก Done


หากต้องการแก้ไขคำถามที่กดเสร็จสิ้นไปแล้ว ให้กดที่รูปดินสอที่ข้อนั้นแล้วเข้าไปแก้ไข


หากต้องการทำข้อต่อไปคลิกที่ เพิ่มรายการ แล้วเลือกชนิดของคำถาม


ตัวอย่างแบบหลายตัวเลือก


ตัวอย่างแบบ ช่องทำเครื่องหมาย ในกรณีที่มีคำตอบเป็นอื่นๆ ที่ให้ผู้ตอบสามารถพิมพ์ลงมาเองได้ให้กดที่ เพิ่ม "อื่นๆ"


ผู้ตอบสามารถพิมพ์ลงมาเองได้ หากต้องการลบคำตอบในข้อใดให้คลิก x ด้านหลังข้อนั้นๆ


ตัวอย่างแบบ สเกล


ตัวอย่างรูปแบบของคำถามที่ทำเสร็จ


หากข้อต้องการย้ายหรือสลับข้อ ให้คลิกค้างไว้แล้้วลากไปไว้ในที่ที่ต้องการ


ตัวอย่างแบบ เลือกจากรายการ


ตัวอย่างรูปแบบของคำถาม Choose from a list ที่ทำเสร็จ


ตัวอย่างแบบ ข้อความ


 ตัวอย่างแบบ ข้อความย่อหน้า
 

ปุ่มแก้ไข คัดลอก ลบ


เมื่อทำเสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม บันทึก ที่อยู่ขวาบน


เมื่อ บันทึก เสร็จจะเป็นดังภาพ บันทึกแล้ว จะไม่ Active


หากต้องการใส่ ชุดรูปแบบ ให้แบบสอบถามคลิกที่ ชุดรูปแบบ Plain


คลิกเลือก ชุดรูปแบบ ที่ต้องการ


เมื่อเลือกแล้วจะแสดงตัวอย่างของแบบสอบถาม ซึ่งตัวอักษรบางส่วนจะอ่านไม่ออก ให้กดที่ปุ่ม “ใช่” เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำแบบสอบถาม


การนำแบบสอบถามไปใช้งาน
อย่างแรกคือ การส่ง Email คลิกที่ “ส่งอีเมลฟอร์มนี้” พิมพ์ Email Address ที่ต้องการให้ตอบแบบสอบถามลงไป แบบสอบถามจะถูกส่งไปให้กับผู้รับ

 

ถ้ามีการตอบแบบสอบถามแล้ว เราสามารถ Loin เข้ามาดูโดยเข้ามาที่ http://docs.google.com
เลือกดูไปที่ “ดูการตอบกลับ” > “ข้อมูลสรุป” เป็นจำนวนรวมของผู้ตอบแบบสอบถาม และแสดงกราฟในแต่ละข้อ


“ดูการตอบกลับ” > “สเปรดชีต” เป็นข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการตอบแบบสอบถาม เป็นช่องคล้าย Excel 1 แถวคือข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1 คน


“ดำเนินการเพิ่ม” > “ฝัง” เข้ามาในนี้ จะมี Code ฝัง ให้สามารถ Copy ไปใช้ใส่ในหน้าเว็บได้


“ดำเนินการเพิ่ม” > “แก้ไขการยังยืน” การแก้ไขข้อความที่แสดง หลังจากผู้ตอบแบบสอบถามกด “ตกลง”

หากต้องการดูแบบสอบถามที่ทำ ให้คลิกที่ลิ้งค์ที่แสดงอยู่ด้านล่างสุด ที่เขียนไว้ว่า “คุณสามารถดูฟอร์มที่เผยแพร่ได้ที่นี่”

ตัวอย่างแบบสอบถามที่ทำเสร็จ
 

เมื่อต้องการเข้ามาดูสถิติและข้อมูลที่มีคนตอบแบบสอบถามมา ให้ Login เข้ามาที่ http://docs.google.com แล้วเลือกแบบสอบถามที่จะดูสถิติ
 

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การติดตั้งและใช้งาน Dropbox


การติดตั้งและการใช้งานโปรแกรม Dropbox

ความสามารถของโปรแกรม
  1. แบ่งปันไฟล์เครื่องต่อเครื่องได้โดยที่ไม่ต้องใช้เนตเวอร์วงเดียวกัน ขอแค่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น อยู่ที่ไหนก็ได้ในโลกนี้สามารถแบ่งปันได้หมด
  2. ไม่ต้องเสียเวลา Upload ให้ยากแค่ Copy ไฟล์ที่เราต้องการจะแบ่งปันไปไว้ในห้องที่เราสร้างไว้เท่านั้น ก็จะ Upload ให้เราเอง
  3. สามารถ Copy URL หรือลิ้งไปวางไว้ในเว็บที่ไหน หรือส่งให้เพื่อนโหลดทาง msm ก็ได้
  4. กำหนดได้ว่าจะแบ่งปันกับใคร หรือสร้างห้องใหม่ขึ้นมาเพิ่มก็ได้เผื่อว่าใครต้องการส่วนตัว


วิธีการสมัคร

1. สมัคร Cilck Here

2.จะขึ้นหน้าจอให้กรอกรายละเอียดดังรูป


3. เมื่อ Create Account เสร็จแล้ว ให้ไปที่ Download

4.เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้ทำการ Double Click เพื่อทำการติดตั้ง Click ปุ่ม Install


5. โปรแกรมจะทำการติดตั้ง รอสักครู่... เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะมีกรอบใหม่ขึ้นมาดังรูป


6.ให้เลือก I already have drobbox account เพราะเราได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว

7.หลังจากนั้นจะมีกรอบใหม่ขึ้นมาให้กรอก E-mail และ password กรอกให้เหมือนกับตอนที่สมัครไว้ส่วน Computer Name ใส่อะไรลงไปก็ได้ เสร็จแล้วกด Next


8. เสร็จแล้วจะมีกรอบขั้นมาให้เลือกดังรูปเลือก 2GB Free ถ้าอยากได้มากกว่ากว่านั้นต้องเสียเงิน


9.กด Next กด Next ไปเรื่อยๆ จนถึง Finish (ซึ่งเป็นการแนะนำการใช้งาน)


วิธีใช้ ถ้าจะแบ่งปันให้ Copy ไฟล์ที่เราต้องการจะแบ่งปันไปไว้ใน Folder Public แล้ว คลิกส์ขวาที่ไฟล์ที่เราต้องการจะแบ่งปัน ไปที่ Dropbox แล้วเลือกตามลักษณะการใช้งานดังนี้

  • Browse on Dropbox website คือ เราจะเข้าไปตั้งค่าอื่นๆนอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว เช่น เข้าไปตั้งให้ใครเห็น folder ที่เราแบ่งปันไว้แล้วบ้าง

เข้าไปเชิญคนอื่นๆ ใช้ dropbox บ้าง โดย เชิญครั้งหนึ่งจะได้พื้นที่เพิ่ม 250 MB
  • View previous version ใช้สำหรับดู version เก่าๆ ของไฟล์นั้นๆ เผื่อต้องการไฟล์ตัวเก่ามาใช้ 
  • Copy public link ก็คือ ในกรณีที่เราต้องการ Copy URL หรือ Link ไป ส่งให้เพื่อนโหลดโปรแกรมที่เราแบ่งปันไว้ ส่งทางเอ็ม หรือ นำไปวางที่เว็บไหนก็ได้ครับ


What is Dropbox?

Dropbox คืออะไร

    วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    สายงานด้านไอที

    สำหรับสายงานด้านไอทีปัจจุบันมีให้เลือกสมัครจำนวนมาก รวมทั้งมีตำแหน่งงานมากที่สุดแทบจะว่าได้สำหรับอัตตราเงินเดือนของคนทำงานสายไอที อันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้สมัครเอง การเรียกอัตตราเงินเดือนนั้นขึ้นอยู่กับฐานบริษัทเป็นหลัก



    1. สายผู้บริหารไอที (IT Management)
    สำหรับอาชีพสายผู้บริหารสารสนเทศขององค์กร จำเป็นเป็นต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานมาพอประมาณน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ปี สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลางตำแหน่งสูงสุดน่าจะเป็น IT/MIS Manager ส่วนองค์กรขนาดใหญ่ต่ำแหน่งระดับสูงที่ดูแลส่วนไอทีจะใช้ตัว C นำหน้า เช่น CIO, CTO อันนี้ก็แล้วแต่ว่าแต่ละบริษัทจะเน้นที่ข้อมูลหรือเน้นที่เทคโนโลยี/นวัตกรรมใหม่ๆ ผู้บริหารไอทีต้องมีศาสตร์ในตัวหลายด้าน สามารถแก้ปัญหาฌเฉพาะหน้าได้ มองมิติต่างๆ ของธุรกิจได้ทะลุปรุโปร่ง สามารถทำเน้นโนโลยีมาประยุกต์ใช้งานกับธุรกิจตนเองได้อย่างเหมาะสมรวมทั้งสามารถสร้างให้บุคคลากรในหน่วยงานใช้เทคโนโลยีได้อย่างชาญชลาด ตัวอย่าง อาชีพระดับบริหารไอที เช่น
    - CEO (Chief Executive Officer) เน้นทุกด้าน
    - CIO (Chief Information Officer) เน้นด้านระบบข้อมูล
    - CTO (Chief Technology Officer) เน้นด้านเทคโนโลยี
    - CFO (Chief Finance Officer) เน้นด้านการเงิน
    - COO (Chief Operation Officer) เน้นด้านปฏิบัติการหรือดำเนินการ
    - CMO (Chief Marketing Officer) เน้นด้านการขาย
    - General Manager ผู้จัดการทั่วไป
    - IT Manager ผู้จัดการฝ่ายไอที
    - MIS Manager
    - IT Division Manager
    - IT Sales Manager
    - IT Audit Division Manager
    - IT System Division Manager
    - Business Development Manager
    - IT Specialist
    - MIS Supervisor
    - ICT Manager
    - Assistant IT Manager

    2. อาชีพสายผู้ดูแลระบบเครือข่าย (Network Admin Jobs)
    สำหรับสายผู้ดูแลระบบเครือข่าย (นิยมเรียกกันในชื่อ Admin) จะเป็นผู้ดูแลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร สามารถแบ่งได้ 3 สายย่อย ตามชนิดระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน ดังนี้

    2.1 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดใหญ่ ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
    - UNIX เช่น IBM AIX, Sun Solaris
    * สามารถบริหารจัดการแอคเคาน์ผู้ใช้, ติดตั้งระบบเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ อาทิ DNS, Web, Mail, Proxy, Database, Backup, ...
    2.2 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดกลาง ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
    - Windows Server (2003, 2008)
    - Linux Server เช่น RedHat, Slackware, SuSE, Debiun, Ubuntu, CentOS
    - BSD Server เช่น FreeBSD, OpenBSD, NetBSD
    2.3 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดเล็ก ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
    - Windows Server (2003, 2008)
    - Linux Server เช่น RedHat, Ubuntu, CentOS
    - BSD Server เช่น FreeBSD
    - ระบบเซิร์ฟเวอร์สำเร็จรูป เช่น IPCop, pfSense, ClarkConnect, Endian ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่)

    สำหรับตำแหน่งงานสายเครือข่ายมีหลายตำแหน่งด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าหน่วยงานที่เราไปสมัครเขาเน้นใช้ระบบปฏิบัติการค่ายไหน เราก็ศึกษา NOS ตัวนั้นเป็นพิเศษ ตัวอย่าง อาชีพสายเครือข่าย เช่น
    - System Engineer วิศวกรระบบ
    - System Administrator ผู้ดูแลระบบเครือข่าย
    - Network Engineer วิศวกรเครือข่าย
    - Network Administrator
    - IT Administrator
    - IT System Admin
    - IT Security
    - Network Security
    - Internet Security Manager
    - IT Network Infrastructure
    - Network Operation เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและดูแลแครือข่าย
    - Lotus Notes/Domino Admin
    - Internet Security Systems Engineer
    - Linux Administrator



    3. อาชีพสายนักเขียนโปรแกรม (Programmer Jobs)
    สำหรับสายนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมเมอร์ นักศึกษาที่เรียนสายวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) หรือสายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering) น่าจะได้เปรียบเป็นพิเศษ อาชีพนักเขียนโปรแกรมนั้นผู้เขียนต้องมองข้อมูลต่างๆ ในเชิง Logic เข้าใจศาสตร์และรูปแบบการเขียนโปรแกรม จริงแล้วในปัจจุบันมีหนังสือสอนจำนวนมาก หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน สำหรับในเมืองไทยเราส่วนตัวผมอยากแนะนำให้ใช้หลักทฤษฎี Copy and Modify มิใช่ใช้ทฤษฎี Copy and Copy (ที่ว่านี้เนื่องจากในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ลักษณะ Open Source

    ให้ดาวน์โหลดมาใช้งานฟรีจำนวนมาก หลังดาวน์โหลดมาแล้วน่าจะสามารถปรับแต่งข้อมูลส่วนโค้ดเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง)แต่หากเขียนด้วยตยเองได้ โดยไม่พึ่งพาซอสโค้ดต่างชาติ จะเป็นการดีมากๆ สำหรับ อาชีพสายการเขียนโปรแกรมนั้น สามารถแยกได้ 2 ส่วนคือ

    3.1 งานโปรแกรมแบบ Offline (นิยมในอดีต)
    - ภาษาที่เน้นใช้พัฒนาอาทิ เช่น C, C++, VB, Delphi, JAVA, Cobol
    - ฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น MS Access, MS SQL Server, Oracle, Sybase, DB2
    3.2 งานโปรแกรมแบบ Online (นิยมในปัจจุบัน) เน้นใช้งานผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์เช่น IE, Firefox, Opera
    - ภาษาที่เน้นใช้พัฒนาอาทิ เช่น PHP, ASP, ASP.NET, JSP, PERL, PYTHON, RUBY (ไปดูข้อมูลสายเว็บไซ์ด้านล่างเพิ่มเติม)
    - ฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น MySQL, PostgreSQL, MS Access, MS SQL Server
    - โปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache, IIS, Tomcat

    ตัวอย่าง อาชีพสายการเขียนโปรแกรม เช่น
    - Programmer
    - Senior Programmer
    - Cobol Programmer เน้นภาษาโคบอล
    - Application Developer
    - Application Developer (JAVA) เน้นภาษาจาวา
    - Senior Java Developer เน้นภาษาจาวา
    - Senior Test Engineer
    - E-Commerce Developer
    - Game Programmer
    - Application Engineer
    - VB Developer
    - Senior Java Programmer
    - PHP Programmer เน้นภาษาพีเฮสพี
    - .Net Programmer (C#, VBT.NET) เน้นเทคโนโลยีดอทเน็ต อาจาใช้ภาษา C# หรือ VBT.NET
    - Java Programmer
    - Software Tester
    - Ajax Programmer
    - Software Engineer
    - J2EE Programmer
    - iPhone Application Developer เน้นใช้งานบนไอโฟน
    - IT Development Specialist
    - Project Manager




    4. อาชีพสายนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analyst Jobs)
    นักวิเคราะห์ระบบงานจะทำหน้าที่วิเคราะห์ระบบงาน ก่อนการส่งงานให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมสำหรับอาชีพสายนี้หากผ่านงานสายการเขียนโปรแกรมมาก่อนจะเป็นการดีมาก
    ตัวอย่าง อาชีพสายนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ เช่น

    - Systems Analyst
    - Business Analyst
    - Senior System Analyst
    - System Analyst AS/400
    - System Analyst (RPG,AS400/IBM)


    5. สายเว็บไซต์ (Website)
    สำหรับอาชีพสายเว็บไซต์ ปัจจุบันนับเป็นอาชีพ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวอย่าง อาชีพสายเว็บไซต์ เช่น
    - Web Programmer / Web Developer ทำหน้าที่พัฒนาแอพลิเคชั่น
    - Web Designer ทำหน้าที่ออกแบบความสวยงานของเว็บไซต์
    - Web Content ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลก่อนนำมาใส่ลงเว็บไซต์
    - Web Marketing ทำหน้าที่ทำการตลาด ทำรายได้ให้ตัวเว็บไซต์สร้างมูลค่าขึ้นมาได้
    - Web Master / Web Manager ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมเว็บ
    - E-Commerce Developer พัฒนาระบบหน้าร้านขายของ
    - Creative Web Designer
    - Senior Web Designer
    - Flash Programmer เน้นพัฒนาแอพลิเคชั่นด้วย Action Script

    แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม
    - http://www.w3.org
    - http://www.php.net
    - http://www.asp.net
    - http://java.sun.com
    - http://www.python.org
    - http://www.ruby-lang.org
    - http://technet.microsoft.com
    - http://www.apache.org
    - http://www.webmaster.or.th
    - http://www.cmsthailand.com
    - http://www.arnut.com/WebMarketing/
    - http://www.iab.net



    6. อาชีพสายฐานข้อมูล (Database Jobs)
    ทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลขององค์กร ตัวอย่าง อาชีพสายสายฐานข้อมูล เช่น
    - Database Administrator (DBA)
    - PL/SQL Developer
    - Lotus System Analyst
    - Database Architect
    - Oracle Database Administrator (DBA)
    - Data Warehouse Specialist
    - Oracle Programmer
    - Data Warehouse Developer
    - Oracle Forms Developer
    - DB2 Database Administrator
    - Lotus Notes Developer
    - MySQL Engineer
    - MySQL DBA

    ข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
    - http://www.oracle.com
    - http://www.microsoft.com/sqlserver/
    - http://www-01.ibm.com/software/data/db2/
    - http://www.sybase.com
    - http://www.mysql.com
    - http://www.arnut.com/database/
    - http://www.databasejournal.com



    7. อาชีพสาย CRM/ERP
    ทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลลูกค้า และระบบจัดการบุคคลากรในหน่วยงาน
    CRM : Customer Relationship Management
    ERP : Enterprise Resource Planning
    ซอฟต์แวร์ยอดนิยมในปัจจุบัน เช่น SAP (Systems, Applications and Products)
    ตัวอย่าง อาชีพสาย CRM/ERP เช่น
    - ERP Specialist
    - SAP Basis Administrators
    - SAP Specialist
    - SAP Analyst : MM
    - SAP Analyst : SD
    - SAP Apprication Manager
    - SAP Project Manager
    - CRM Manager
    - CRM Program Management
    - CRM Business Data Manager

    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    - http://www.sap.com
    - http://www.thaisap.com
    - http://www.sugarcrm.com



    8. อาชีพสายคอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphic Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายคอมพิวเตอร์กราฟิก เช่น
    - Graphic Designer
    - Computer Graphic
    - Graphic Arts Designer

    9. อาชีพสายการออกแบบ/เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์/งานสามมิติ/Animation ตัวอย่าง อาชีพสายออกแบบ/เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์/ก เช่น
    - Draftman (พนักงานเขียนแบบ)
    - 3D Product Design Officer
    - Interactive Media Editor
    - Creative
    - 3D Modeling
    - 3D Character Animator
    - 3D Visualizer
    - Computer Animation

    10. อาชีพสายสื่อผสม (Multimedia Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายสื่อผสม เช่น
    - Multimedia Designer

    11. อาชีพสายที่ปรึกษาไอที (IT Consultant Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายที่ปรึกษาไอที เช่น
    - IT Consultant
    - Business Intelligence Consultant
    - ERP Consultant
    - Datawarehousing Consultant
    - CRM Consultant

    12. อาชีพสายผู้ตรวจสอบไอที (IT Audit Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายผู้ตรวจสอบไอที เช่น
    - IT Audit (ผู้ตรวจสอบระบบสารสนเทศ)

    13. อาชีพสายผู้สอนหลักสูตรไอที / ฝึกอบรมด้านไอที ตัวอย่าง อาชีพสายผู้สอนหลักสูตรไอที / ฝึกอบรมด้านไอที เช่น
    - Computer Teacher (อาจารย์สอนคอมพิวเตอร์)
    - IT Trainner (วิทยากรอบรม/บรรยายด้านไอที)
    - Instructor (ผู้สอนหลักสูตรคอมพิวเตอร์)

    14. อาชีพสายผู้สนับสนุนไอที (IT Support Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายผู้สนับสนุนไอที เช่น
    - IT Support
    - IT Support Officer
    - Technical Support Engineer
    - Technicial Support
    - Maintenance Engineer
    - Technical Services Engineer
    - Helpdesk Supervisor
    - IT Help Desk
    - Customer Support
    - IT Maintenance

    15. อาชีพสายพนักงานขายอุปกรณ์ไอที (IT Sales Jobs) ตัวอย่าง อาชีพสายพนักงานขายอุปกรณ์ไอที เช่น
    - IT Sales
    - Sales Executive
    - Senior Sales Executive
    - Product Specialist
    - Product Manager
    - Sales Engineer (IT)
    - Sales Engineer (Solution)
    - Sales Supervisor
    - Pre-sales Consultant
    - Sales Representative
    - Project Sales
    - Pre-sales Engineer

     16. อาชีพสายพนักงานไอที ตัวอย่าง อาชีพสายพนักงานไอที เช่น
    - IT Officer
    - System Operator
    - IT Operator
    - Computer Operator

    17. อาชีพสายไอทีอื่นๆ ที่น่าสนใจ ตัวอย่าง เช่น
    - นักเขียนหนังสือ (IT Book)
    - นักเขียนนิตยสาร/หนังสือพิมพ์ (Columnist)
    - นักข่าวสายไอที (Reporters)
    - บรรณาธิการนิตยสารไอที

    แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม
    - http://www.itpc.or.th
    - http://www.tja.or.th
    - http://www.thaibja.org

    ที่มา : http://www.arnut.com/b/itjobs

    วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    แนะนำวิชา

    CSC200 บัณฑิตในอุดมคติทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวนหน่วยกิต 1 (0-2-2)
    คำอธิบายรายวิชา
    วิธีการเรียนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ การเตรียมตัวสู่อาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ  โอกาสและแนวทางการประกอบวิชาชีพ  จรรยาบรรณวิชาชีพ และความเป็นมืออาชีพตามคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์

    แผนการสอน



    สัปดาห์ที่
    หัวข้อ/รายละเอียด
    จำนวน
    ชั่วโมง
    กิจกรรมการเรียนการสอน
    1
    แนะนำการเรียนการสอน
    2
    บรรยาย
    2
    กลุ่มวิชาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    3
    กลุ่มวิชาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 1
    4
    การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบการเรียน เช่น E-mail, Social network
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    5
    การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบการเรียน เช่น E-mail, Social network
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 2
    6
    การสืบค้นข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    7
    การสืบค้นข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 3
    8
    สอบกลางภาค
    9
    การวิเคราะห์ปัญหาเพื่อการเขียนโปรแกรม
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    10
    การวิเคราะห์ปัญหาเพื่อการเขียนโปรแกรม
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 4
    11
    กฏหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    12
    กฏหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 5
    13
    กฏหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพ
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    14
    คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์
    2
    บรรยาย และแบบฝึกหัด
    ทดสอบย่อยครั้งที่ 6
    15
    คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์
    2
    บรรยาย
    16
    ทบทวนบทเรียน
    2
    ทบทวน
    17
    สอบปลายภาค